If you are lucky enough to find a way of life you love, you have to find the courage to live it.
Sunday, September 25, 2011
Saturday, September 24, 2011
Home made Thai sausages - ไส้กรอกหมู
เพื่อนๆ ที่อยู่ต่างแดนคงจะรู้กันดีว่าอาหารไทยในต่างประเทศนั้นราคาสูง เรียกว่าอยากจะกินอะไรขึ้นมาแต่ละทีต้องกัดฟันซื้อเลยทีเดียว โดยเฉพาะ พวกกุนเชียง ไส้กรอก หมูยอ หมูหยอง อะไรประมาณนี้ แพงใช้ได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะที่แคนเบอร์ร่าไม่น่าจะต่ำกว่า 7 เหรียญแล้วก็ได้ไม่เยอะเท่าไหร่ด้วย
วันนี้เราก็เลยอยากจะลองทำกินเองดูเผื่ออร่อยจะได้ทำกินเองได้วันหลังแล้วก็จะได้แจกเพื่อนๆ (ที่นี่) กินด้วย วิธีทำก็ง่ายๆตามนี้เลยจ้ะ
1. หมูสับ ประมาณ 500g (เราซื้อเอาเป็นแพค เพราะขี้เกียจมานั่งสับเองน่ะ มันหนาว)
2. ข้าวสวย ที่เย็นแล้ว จะข้าวเจ้าหรือข้าวหนียวก็ได้ ประมาณ 1-2 ทัพพี จะใส่มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับว่าอยากให้ไส้กรอกออกมาเปรี้ยวมาก เปรี้ยวน้อย
3. กระเทียม กับพริกไท ตำละเอียด(ใส่มากน้อยตามความชอบ)
4. เกลือ ประมาณครึ่งช้อนกาแฟ
5. ไส้ (จะไส้เทียม หรือไส้จริงแล้วแต่จะจัดหามาได้ค่ะ) เราใช้เป็นไส้คอลลาเจน ที่แถมมากับชุดทำไส้อั่วของโลโบอ่ะเพราะยังไม่แน่ใจว่าจะหาไส้จริงได้จากที่ไหน เตือนก่อนนะว่าไส้ปลอมหาง่าย แต่ว่ารสชาดมันก็จะไม่แหล่มเท่าของจริงเค้า เพราะว่าไส้จริงๆ นั้นมันจะมันๆ ตอนย่างน้ำมันก็จะเยิ้มออกมานิดๆ รสชาดก็จะอร่อยกว่า
6. กรวย ของเราเอาขวดน้ำอัดลมมาตัดตรงคอขวด ก็ใช้ได้ดีไม่มีปัญหา แต่พอเวลาตอนจะยัดไส้กรอกลงไปก็ต้องใช้ด้ามยาวๆ กลมๆ ช่วยให้ยัดได้เร็วขึ้น
7. ไม้จิ้มฟัน เอาไว้จิ้มๆ ตอนเรายัดไส้หมูสับลงไปเพื่อใล่ลมให้ออกไป
8. เชือก เพื่อที่จะมัดไส้กรอกให้เป็นข้อๆ
วิธีทำ
เอาถ้วยหรืออะไรที่ใบใหญ่ๆ ใส่หมูสับ ข้าวสวย กระเทียมพริกไทยตำ แล้วก็เกลือ ผสมให้เข้ากัน แล้วก็ชิม โดยการตักใส่ถ้วยแล้วก็เอาไปใส่ไมโครเวฟ ถ้ายังไม่เค็มก็ใส่เกลือเพิ่ม พอได้รสชาดที่ต้องการแล้วก็เอามายัดใส่ไส้ แล้วมัดเป็นข้อๆ เอาไปตากแดด ประมาณ 1 วัน หรือทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องเพื่อให้ข้าวทำปฏิกิริยา (หรือเปรี้ยว) เสร็จแล้วก็เอามาทอด หรือย่าง ตามแต่ชอบจ้า
เสร็จแล้ว ง่ายไหม อิอิ
Wednesday, September 21, 2011
ส้มตำปูปลาร้า (ปลาร้าไม่มีใส่กะปิแทน)
เคยแปลกใจบ้างไหมว่าทำไมเราใช้เครื่องปรุงทุกอย่างเหมือนกับที่เค้าตำขายกัน แต่ทำไม๊..รสชาดถึงได้ต่างกันลิบลับ ยิ่งคนที่อยู่ไกลบ้านอย่างเรายิ่งไม่ต้องพูดถึง เครื่องปรุงนั้นก็หาที่เหมือนกับเมืองไทยของเราไม่ได้ เพราะฉะนั้นรสชาดก็อย่าไปหวังว่ามันจะออกมาใกล้เคียงกับตำบักหุ่งหน้าปากซอยเชียวละ
วันนี้เรามีเคล็ดลับมาบอกว่าตำส้มตำยังไงให้แซ่บ
1. มะนาว เลือกที่สดๆ หยิกตรงเปลือกดูว่ามีกลิ่นหอมมะนาวหรือเปล่า ถ้าไม่หอม ไม่ต้องซื้อ แล้วเวลาบีบมะนาวให้บีบเอาแต่น้ำ ถ้าจะใส่เปลือกลงไปด้วยให้เฉือนลงไปได้นิดหน่อยเพราะจะช่วยให้หอมกลิ่นมะนาวมากขึ้นแต่ไม่ต้องมากเพราะเดี๋ยวจะขมเอาเปล่าๆ
2. น้ำตาล จะเป็นน้ำตาลทรายแดงหรือน้ำตาลทรายขาวก็ได้แต่ขอให้ใส่ลงไปพร้อมกับตอนที่เราตำพริกกับกระเทียม เราเองไม่รู้เหตุผลเหมือนกันว่าทำไมมันทำให้รสชาดต่างกันได้ลิบลับแต่ว่าเป็นเรื่องจริง เพราะเราสังเกตจากหลายๆ คนที่ตำส้มตำอร่อยแล้ว มักจะทำกันแบบนี้
3. หาเพื่อนกินด้วย เพราะกินคนเดียวยังไงก็สู้แซ่บเป็นหมู่คณะไม่ได้หรอกจ้า :P
Monday, September 5, 2011
Saturday, September 3, 2011
ขนมจีนน้ำยาตีนไก่
วันนี้เกิดครึ้มอกครึ้มใจอยากกินน้ำยาตีนไก่ขึ้นมา เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าไปกินที่บ้านเพื่อนแล้วเกิดติดใจทีนี้ก็เลยต้องหามากินให้ได้ ทีนี้ครัวบ้านนอกอย่างเรา (เอ้ย เมืองนอก) ก็ต้องว่ากันไปตามมีตามเกิด ว่าอะไรมีขายบ้าง สรุปแล้วก็ได้ออกมาหน้าตาเป็นอย่างงี้ รสชาดก็ไม่ได้เลวร้าย พอกล้อมแกล้มได้สำหรับคนอยู่ต่างแดนอย่างเรา
มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. ตีนไก่ ประมาณครึ่งโล (หรือจัดไปตามความอยาก อิอิ)
2. กะทิ จะกระป๋องหรือว่าใครมีปัญญาหากะทิสดก็แล้วแต่สะดวก ประมาณ 1 ลิตร หรือ 2 กระป๋อง ของเราใช้เป็นกะทิกล่องตราชาวเกาะนะ เพราะไม่ชอบแบบกระป๋องมันเข้มไปแถมไม่แตกมันอีกต่างหาก
3. พริกแห้ง ประมาณ 20 เม็ด หรือแล้วแต่ชอบเผ็ดมากเผ็ดน้อย
4. กระชาย ประมาณ 3-4 หัว
5. หอมแดง 5-6 หัว
6. กระเทียม ประมาณ 3-4 กลีบ ก็โยนๆ ใส่เข้าไปนั่นแหละ
7. ใบมะกรูด ประมาณสองใบ
8. เนื้อปลา พอประมาณ ไม่ต้องมากเดี๋ยวน้ำจะเข้มข้นเกิน หรือจะทูน่ากระป๋องก็ได้ เอาไว้โขลกใส่ลงไป
ส่วนวิธีทำก็ง่ายๆ เลยจ้ะ
1. เอาตีนไก่ไปต้มให้สุก ล้างให้สะอาด พักใส่จานไว้
2. จากนั้นต้มน้ำประมาณนึง พอน้ำเดือดก็ใส่ พริกแห้ง หอมแดง กระเทียม กระชาย ปลาสด(ถ้ามี) ลงไป ดูว่าทุกอย่างสุกแล้ว ก็เอามาพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
3. นำพวกเครื่องแกงมาโขลกรวมกัน ไม่ต้องละเอียดมากเดี๋ยวตอนกินจะเคี้ยวไปไม่เจออะไร อิอิ
3. จากนั้นก็เอาเนื้อปลามาโขลกให้ขึ้นฟู ใส่ถ้วยไว้
4. เอากะทิ(ไม่ต้องทั้งหมด เอาแค่ 1 ใน 3 ส่วน) ไปตั้งไฟ พอเดือดแล้วก็เอาพริกแกงที่โขลกไว้ใส่ลงไป จากนั้นก็รอให้กะทิแตกมันสักครู่ ตามลงไปด้วยเนื้อปลาที่โขลกไว้
5. ตีนไก่ ใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยกะทิที่เหลือ
6. ปรุงรสตามใจชอบ ก็คือใส่น้ำปลา แล้วก็น้ำตาล ชิมให้ได้รสที่ชอบ เสร็จแล้วก็ใส่ใบมะกรูดลงไปเป็นอันเสร็จพิธี
ทีนี้เราก็มีตีนเป็นของตัวเองแล้ว จัดไปตามกำลังไม่ว่าจะเป็น ถั่วงอก ถั่วฝักยาว สะระแหน่ ผักชีลาว โหระพา ผักกาดดอง ฯลฯ เป็นอันว่าแซ่บนัว อิอิ อ้อ อย่าไปตกใจถ้าสีสันมันดูไม่สวยงามตอนเสร็จใหม่ๆ คอนเฟิร์มว่าถ้าเอาน้ำยามาอุ่นข้ามคืนแล้วรับรอง หน้าตาเป็นแบบนี้เลยจ้ะ
มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. ตีนไก่ ประมาณครึ่งโล (หรือจัดไปตามความอยาก อิอิ)
2. กะทิ จะกระป๋องหรือว่าใครมีปัญญาหากะทิสดก็แล้วแต่สะดวก ประมาณ 1 ลิตร หรือ 2 กระป๋อง ของเราใช้เป็นกะทิกล่องตราชาวเกาะนะ เพราะไม่ชอบแบบกระป๋องมันเข้มไปแถมไม่แตกมันอีกต่างหาก
3. พริกแห้ง ประมาณ 20 เม็ด หรือแล้วแต่ชอบเผ็ดมากเผ็ดน้อย
4. กระชาย ประมาณ 3-4 หัว
5. หอมแดง 5-6 หัว
6. กระเทียม ประมาณ 3-4 กลีบ ก็โยนๆ ใส่เข้าไปนั่นแหละ
7. ใบมะกรูด ประมาณสองใบ
8. เนื้อปลา พอประมาณ ไม่ต้องมากเดี๋ยวน้ำจะเข้มข้นเกิน หรือจะทูน่ากระป๋องก็ได้ เอาไว้โขลกใส่ลงไป
ส่วนวิธีทำก็ง่ายๆ เลยจ้ะ
1. เอาตีนไก่ไปต้มให้สุก ล้างให้สะอาด พักใส่จานไว้
2. จากนั้นต้มน้ำประมาณนึง พอน้ำเดือดก็ใส่ พริกแห้ง หอมแดง กระเทียม กระชาย ปลาสด(ถ้ามี) ลงไป ดูว่าทุกอย่างสุกแล้ว ก็เอามาพักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
3. นำพวกเครื่องแกงมาโขลกรวมกัน ไม่ต้องละเอียดมากเดี๋ยวตอนกินจะเคี้ยวไปไม่เจออะไร อิอิ
3. จากนั้นก็เอาเนื้อปลามาโขลกให้ขึ้นฟู ใส่ถ้วยไว้
4. เอากะทิ(ไม่ต้องทั้งหมด เอาแค่ 1 ใน 3 ส่วน) ไปตั้งไฟ พอเดือดแล้วก็เอาพริกแกงที่โขลกไว้ใส่ลงไป จากนั้นก็รอให้กะทิแตกมันสักครู่ ตามลงไปด้วยเนื้อปลาที่โขลกไว้
5. ตีนไก่ ใส่ลงไปในหม้อ ตามด้วยกะทิที่เหลือ
6. ปรุงรสตามใจชอบ ก็คือใส่น้ำปลา แล้วก็น้ำตาล ชิมให้ได้รสที่ชอบ เสร็จแล้วก็ใส่ใบมะกรูดลงไปเป็นอันเสร็จพิธี
ทีนี้เราก็มีตีนเป็นของตัวเองแล้ว จัดไปตามกำลังไม่ว่าจะเป็น ถั่วงอก ถั่วฝักยาว สะระแหน่ ผักชีลาว โหระพา ผักกาดดอง ฯลฯ เป็นอันว่าแซ่บนัว อิอิ อ้อ อย่าไปตกใจถ้าสีสันมันดูไม่สวยงามตอนเสร็จใหม่ๆ คอนเฟิร์มว่าถ้าเอาน้ำยามาอุ่นข้ามคืนแล้วรับรอง หน้าตาเป็นแบบนี้เลยจ้ะ
Subscribe to:
Posts (Atom)